6

การเงินต้องบริหาร

คนทำประกัน VS คนไม่ทำประกัน

 
คนหนึ่งเอาเงินก้อนมาทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ไว้กับเมืองไทยประกันชีวิต กับ อีกคนที่คิดว่าเก็บเงินไว้ดีกว่าไม่ทำประกันหรอก มันสิ้นเปลือง แพง ไม่จำเป็น เหมือนกับการเก็บไข่ใว้ในตระกร้าใบเดียว สุดท้ายเดินไปสะดุดล้มไข่แตกหมดเลย แต่ถ้ากระจายไว้หลายใบ ก็เหมือนการกระจายความเสี่ยงออกไป กระตร้าใบหนึ่งแตก ก็ยังเหลือใบอื่นๆ
  • เมื่อต้องป่วยเข้าโรงพยาบาล คนมีประกัน ไม่ต้องกวักเงินสักบาท ส่วนคนไม่ทำประกันเงินเก็บหายไปครึ่งหนึ่ง
  • เมื่อการเหตุไม่คาดฝัน เสียชีวิตแบบไม่ได้เตรียมใจ คนทำประกันไม่ทิ้งภาระให้คนข้างหลัง มีเงินก้อนให้ด้วย ส่วนคนไม่ทำประกันนอกจากไม่ทิ้งอะไรไว้แล้วอาจจะทิ้งหนี้สินไว้ด้วย

 

การทำประกันต้องทำให้พอเหมาะกับความสามารถให้การส่งเบี้ยด้วยนะคะ เพราะประกันที่เลือกจะอยู่กับเราไป 10 ปี 20 ปี ไม่ใช่ของใช้อื่นที่อายุการใช้งานสั้นๆ ดูราคาอย่างเดียวก็ไม่ได้นะคะ เบี้ยถูกอย่างเดียว ซื้อเลยไม่ดูรายละเอียด กลายเป็นไม่คุ้มครองอะไรเลยก็มีเงินไปนะคะ การเลือกทำประกันอยากให้คุยรายละเอียดกับตัวแทนเยอะๆ ถามทุกอย่างที่สงสัยอย่างเกรงใจตัวแทน แต่ถามแต่เบี้ย ขอแต่ใบเสนอแล้วเอาไปเปรียบเทียบเอง อาจพลาดได้นะคะ

7

Digital Face to Face

เกิดจากสถานการณ์ Covid 19 ทำให้เราต้องเว้นระยะห่างจากกัน ลูกค้าเกิดความไม่สบายใจ ในการให้ตัวแทนเข้าพบ เพื่อทำสัญญาประกัน จึงเกิดการทำประกันยุดโควิดขึ้น เรียกว่า Digital Face to Face มีขั้นตอนเพิ่มขึ้นกว่าการนัดเซ็นเอกสารเล็กน้อย แต่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ไม่สะดวกนัดพบ หรือ ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดได้ดีมากๆ ไม่ต้องเซ็นเอกสารบางอย่าง แต่ความคุ้มครองยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ทุกขั้นตอนเป็นไปหลักการขอเอาประกันของบริษัท ไม่ต้องกังวลใดๆค่ะ

ขั้นตอนการทำ Digital Face to Face

  • ลูกค้าให้ข้อมูลสำหรับ ทั้งข้อมูลส่วนตัว น้ำหนัก/ส่วนสูง ที่อยู่ อาชีพ ฯลฯ เพื่อให้ตัวแทนกรอกใบคำขอเอาประกัน
  • ตัวแทนส่งเอกสาร ใบเสนอขาย และ ใบคำขอเอาประกัน ให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้อง
  • ลูกค้าส่งเอกสารแสดงตัวตน สำเนาบัตรประชาชน และรูปถ่ายหน้าตรงให้ตัวแทน
  • ลูกค้ายืนยันตัวตนทาง Line My Customer
  • ลูกค้าชำระเบี้ยประกัน สามารถชำระได้ทั้งแบบการโอนเงินเข้าบริษัท หรือ ตัดบัตรเครดิต (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
  • ตัวแทนจัดส่งใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้ลูกค้า
  • ตัวแทนส่งเอกสารทั้งหมดเข้าบริษัทและ พิจารณารับประกันต่อไป

ง่ายๆเท่านี้ก็ไม่ต้องเสี่ยงออกมาบ้านมาพบตัวแทนแล้ว ยังได้ความคุ้มครองเหมือนกันทุกประการเลยค่ะ 

8

โรคที่ประกันไม่คุ้มครอง

โรคที่ประกันไม่คุ้มครอง โรคบางโรคเป็นแบบยังสามารถทำประกันสุขภาพได้ แต่ยกเว้นความคุ้มครองโรคนั้นๆและอาการที่เกี่ยวเนื่องไป แต่บางโรคเป็นแล้วหมดสิทธิ์ทำประกันสุขภาพ รวมถึงประกันชีวิตไปเลยก็มี

  • โรคที่เป็นมาก่อนทำประกันและยังไม่หายขาด : เช่น ริดสิดวง กระเพาะอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ปอดอักเสบ ฯลฯ จะพิจารณาจากระยะเวลาที่เป็นโรคมาส่วนใหญ่ถ้าไม่ถึง 5 ปี หรือ เพิ่มหายไม่นาน บริษัทจะไม่คุ้มครองโรคและอาการนั้นๆ เพราะว่า อาจจะยังหายไม่ขาด มีโอกาสเป็นอีกได้ แต่เมื่อผ่านเวลาไป 2-3 ปี ถ้าไม่มีอาการแล้ว มั่นใจว่าหายขาดแล้ว สามารถยื่นให้บริษัททบทวนเงื่อนไขได้
  • โรคประจำตัวที่เป็นมาก่อนทำประกัน เช่น โรคหอบหืด โรคเก๊าท์ ก้อนที่เต้านม เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ โรคกระเพรา โรคความดัน ก็จะรับประกัน แบบยกเว้นโรคนั้นๆไป แต่บางโรคก็ไม่รับทำประกันไปเลย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน SLE ความจำเสื่อม 
  • โรคที่เป็นมาแต่กำเนิด เช่น G6PD ก็จะรับประกันแบบยกเว้นความคุ้มครองโรคนั้นๆไปเช่นกัน 
  • โรคติดต่อทางเพศ เช่น HIV นั้น ถ้าเป็นก่อนทำประกันจะไม่สามารถรับประกันได้ แต่ถ้าเป็นหลังประกันแล้วก็จะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายการรักษา เป็นข้อยกเว้นทั่วไป 1 ใน 26 ข้อ ตามกฏหมายกำหนด

ดังนั้นถ้าอยากทำประกันชีวิต / สุขภาพ แบบอนุมัติผ่านง่ายๆ ก็ต้องทำตอนแข็งแรงค่ะ บริษัทจะไม่มีการขอให้ตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน แต่ถ้ามีประวัติการรักษา หรือมีโรคประจำตัว บริษัทอาจขอตรวจสุขภาพ ขอประวัติการรักษามาพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อออกเงื่อนไขพิเศษให้ลูกค้าค่ะ 

9

ประกันชีวิตมี 4 แบบ

ประกันชีวิต 4 แบบ เหมาะกับความต้องการของบุคคลที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องดูจุดประสงค์การทำประกันเป็นสำคัญว่า ตัวเรา ต้องการทำประกันชีวิตไปเพื่ออะไร มาดูทั้ง 4 แบบกันเลยค่ะ

  • ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
    • ลักษณะเด่น : สัญญาความคุ้มครองจะยาว ถึงอายุ 80 90 หรือ 99 ปี  และเบี้ยจะถูกกว่าแบบประกันอื่น
    • เหมาะกับ : คนที่ต้องการความคุ้มครอชีวิตสูงอย่างคนมีภาระเยอะ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หัวหน้าครอบครัว เนื่องจากเบี้ยประกันถูกทำทุนประกันชีวิตได้สูงเท่าที่ต้องการ หรือ อีกกลุ่มคือ คนที่ต้องการทำประกันสุขภาพ เพราะสัญญาที่ยาวทำให้เราต่ออายุสัญญาสุขภาพได้ยาวด้วย และเบี้ยยังถูกอีกด้วย
    • แบบประกันแนะนำ : เมืองไทยสมาร์ทโพรเทคชั่น 99/20
  • ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
    • ลักษณะเด่น : สัญญามาระยะเวลาประมาณ 10-25 ปี
    • เหมาะกับ : คนที่ต้องการความวางแผนการเงินระยะต่างๆ เช่นทุนการศึกษาให้บุตร หรือเป็นวิธีบังคับตัวเองให้ออมเงินได้ด้วย และกลุ่มคนที่ต้องการประกันเพื่อไปลดหย่อนภาษีจะนิยมแบบนี้เพราะสัญญาสั้น
    • แบบประกันแนะนำ : โครงการเมืองไทย 101 พลัส
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญ
    • ลักษณะเด่น : จะจ่ายเงินบำนาญตั้งแต่ตอนอายุ 55 หรือ 60 ปี และจะจ่ายให้จนถึงอายุ 85-99 ปี แล้วแต่แบบประกัน จะไม่ได้เงินก้อนใหญ่ทีเดียว จะเป็นการทยอยจ่าย เหมือนการจ่ายบำนาญของข้าราชการ
    • เหมาะกับ : การวางแผนเกษียญอายุ เพราะเป็นช่วงที่เราไม่ได้ทำงานแล้ว เราจะเอารายได้จากไหน ดำรงชีพต่อไป และสำหรับกลุ่มที่ต้องการลดหย่อนภาษี 200,00 หลัง
    • แบบประกันแนะนำ : โครงการเมืองไทย รีเทิร์น รีไทร์ 8505 (บำนาญลดหย่อนได้)
  • ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
    • ลักษณะเด่น : คุ้มครองช่วงเวลาหนึ่ง 10 ปี 15 ปี ครบสัญญาไม่มีเงินคืน เป็นเบี้ยทิ้งทั่งหมด แต่เบี้ยจะถูกมากๆ ถูกกว่าแบบตลอดชีพอีก
    • เหมาะกับ : คนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตสูงๆ แต่ไม่อยากส่งเบี้ยแพง และต้องการคุ้มครองช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

รู้แบบนี้แล้ว อย่ามุ่งแต่จะทำประกันออมทรัพย์เลยค่ะ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แบบประกันออมทรัพย์ยังเป็นประกันที่แพงที่สุดด้วย ( เทียบจากทุนประกันชีวิตที่ได้รับ กับเบี้ยประกันที่จ่าย ) ตอบตัวเองให้ได้ก่อน จุดประสงค์ทำประกันของฉันคือ….. ตอบได้แล้ว อย่าลืมนอกตัวแทนด้วยนะคะ จะได้ช่วยแนะนำแบบประกันที่เหมาะสม พอดีๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไปให้ลูกค้าค่ะ

14

LGBTQ : เพราะทุกความรัก เท่าเทียมกัน

ปัจจุบันโลกเราเต็มไปด้วยความหลากหลาย

ต่างเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม รวมทั้งความคิด มุมมอง ทัศนคติ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก…ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ ทุกวันนี้คู่รักไม่จำกัดให้อยู่เฉพาะเพศชายและเพศหญิงเท่านั้น เพราะ “เพศ” ไม่ใช่ข้อจำกัดสำหรับความรักอีกต่อไป เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกวันนี้โลกเราก้าวไปไกลกว่านั้น ผ่านการเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐาน และสิทธิบางประการที่พึงมีในฐานะคู่รัก เช่น การบริหารจัดการทรัพย์สิน ตลอดจนการทำประกันชีวิต

จะเพศไหนก็รักกันได้ เพราะความสุขคือความรักที่เท่าเทียม

ด้วยความเข้าใจและให้ความสำคัญกับทุกความรัก โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกรูปแบบของความรักและการใช้ชีวิตให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงกลุ่มคู่รัก LGBT ที่สามารถเลือกแบบประกันชีวิต  ให้ทุกๆ ความรักสามารถเข้าถึงทุกบริการได้อย่างเท่าเทียม พร้อมส่งต่อความรักและความสุขให้กับคนที่คุณรักอย่างมั่นคง โดยสามารถระบุผู้รับประโยชน์เป็นคนที่คุณรักแม้จะเป็นเพศเดียวกันได้ เพียงระบุความสัมพันธ์ ด้วยคำว่า “คู่ชีวิต” โดยไม่มีการขอเอกสารแสดงความสัมพันธ์เพิ่มเติม

17

ส่งประกันต่อไม่ไหว ทำยังไงดี

อย่าปล่อยทิ้งไปเฉยๆ เด็ดขาด กรมธรรม์ของคุณมีค่า
สามารถเลือกวิธีต่างๆ ต่อไปนี้

1. เวนคืน หรือ ยกเลิกธรรม์ ประกันชีวิตทั้งแบบตลอดชีพ ออมทรัพย์ บำนาญ มันมีมูลค่าสะสม ไม่ใช่แต่ประกันออมทรัพย์อย่าที่หลายๆคนเข้าใจว่าแบบอื่นเป็นเบี้ยทิ้ง ไม่จริงเลย ถ้าคิดจะยกเลิกให้แจ้งบริษัท ขอเวนคืนได้

2. การใช้แบบขยายเวลา “ทุนประกันภัยเท่าเดิม แต่ระยะเวลาคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลง” เช่น สัญญาตอนแรก ทำทุนไว้ 5 ล้าน คุ้มครอง 20 ปี พอขอใช้ขยายเวลา กลายเป็นทุน 5 ล้านเท่าเดิม แต่คุ้มครองให้แค่ 10 ปี ( ต้องดูตารางในกรมธรรม์ )

3. การใช้เงินสำเร็จ “ลดทุนประกัน แต่ระยะเวลาคุ้มครองเท่าเดิม” เช่น สัญญาตอนแรก ทำทุนไว้ 5 ล้าน คุ้มครอง 20 ปี พอขอใช้เงินสำเร็จ กลายเป็นเหลือทุน 2 ล้าน แต่คุ้มครองเท่าเดิม 20 ปี ( ต้องดูตารางในกรมธรรม์ )

4. กู้กรมธรรม์ตัวเองได้ จำนวนเงินกู้ต้องไม่เกินมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์  และต้องนึกถึงการชำระคืนด้วย เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาจส่งผลต่อวงเงินเอาประกันและความคุ้มครองได้ และหากเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายมีจำนวนมากกว่าเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ที่มีอยู่ จะมีผลให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับก่อนวันครบกำหนดหรืออาจส่งผลให้เงินผลประโยชน์ที่จะได้รับตามกรมธรรม์ลดลงตามจำนวนหนี้ที่ค้างจ่าย

19

ข้อยกเว้นทั่วไป 26 ข้อ

ข้อยกเว้นทั่วไป ที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง ที่ระบุในกรมธรรม์ 26 ข้อ ดังนี้
1. โรคเรื้อรัง การเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บที่ไม่ได้รักษาให้หายก่อนวันทำสัญญาประกันภัยการตรวจรักษาภาวะที่เป็นมาแต่กำเนิด หรือ ปัญหาด้านพัฒนาการ หรือโรคทางพันธุกรรม
2. การตรวจรักษาหรือ ผ่าตัดเพื่อเสริมสวย หรือแก้ไขปัญหาผิวพรรณ หรือควบคุมน้ำหนัก เว้นแต่เป็นการตกแต่งแผลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ
3. การตั้งครรภ์ แท้งบุตร ทำแท้ง คลอดบุตร โรคแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์การแก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก การทำหมันการคุมกำเนิด
4. โรคเอดส์ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
5. การตรวจรักษา หรือป้องกัน การใช้ยา หรือสารต่าง ๆ เพื่อชะลอวัย การให้ฮอร์โมนทดแทนในวัยใกล้หมดระดูกการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การรักษาความผิดปกติทางเพศ แปลงเพศ
6. การตรวจสุขภาพทั่วไป การร้องขอเข้าอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล การพักฟื้นซึ่งไม่ใช่ความจำเป็นทางการแพทย์และค่าเฝ้าไข้พิเศษ
7. การตรวจรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา ทำเลสิค
8. การตรวจรักษาทันตกรรม ยกเว้นกรณีบาดเจ็บเนื่องจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่าฟันปลอม
9. การรักษาหรือการบำบัดการติดยาเสพติดให้โทษ รวมถึง สุรา บุหรี่
10. การตรวจรักษา โรคเกี่ยวกับภาวะทางจิตใจ จิตเวช
11. การตรวจรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างทดลอง อาการหยุดหายใจขณะหลับ การนอนกรน ความผิดปกติของการนอนหลับ
12. การปลูกฝี ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยกเว้นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หลังการถูกสัตว์ทำร้าย วัคซีนป้องกันบาดทะยักภายหลังได้รับบาดเจ็บ
13. การตรวจรักษาที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบัน รวมถึงแพทย์ทางเลือก
14. ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการตรวจรักษาพยาบาลที่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นแพทย์สั่งให้แก่ตัวเอง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการตรวจรักษา ผู้ซึ่งเป็น บิดา มารดา บุตร คู่สมรสของผู้เอาประกันภัยเอง
15. การฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายร่างกายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยตนเอง หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำ
16. การบาดเจ็บที่เกิดจากผู้เอาประกันภัยอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา สารเสพติด ซึ่งมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
17. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ขณะผู้เอาประกันภัยเข้าร่วมทะเลาะวิวาทหรือมีส่วนยั่วยุ ให้เกิดการทะเลาะวิวาท
18. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผู้เอาประกันภัยก่ออาชญากรรมที่มีความผิดสถานหนัก
19. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นขณะผู้เอาประกันภัย แข่งรถหรือแข่งเรือ แข่งม้า แข่งสกี/เจ็ตสกี/สเก็ต ชกมวย โดดร่ม เว้นแต่โดดร่มเพื่อรักษาชีวิต ขณะกำลังขึ้นโดยสาร บอลลูน เครื่องร่อนเล่นบันจี้จั๊มพ์ ดำน้ำที่ต้องใช้ถังอากาศเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ
20. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นขณะที่ผู้เอาประกันภัยกำลังขึ้น ลง ขณะโดยสารอยู่ในอากาศยาน ที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุกผู้โดยสารและมิใช่สายการบินพาณิชย์
21. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นขณะที่ผู้เอาประกันภัยขับขี่หรือปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานประจำในอากาศยาน
22. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้เอาประกันภัยปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจอาสาสมัคร และเข้าปฏิบัติการในสงคราม
23. สงคราม รุกราน การกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ สงครามกลางเมือง การกบฏ การจลาจล การนัดหยุดงานการก่อความวุ่นวาย ปฏิวัติ รัฐประหาร การประกาศกฎอัยการศึก
24. การก่อการร้าย
25. การแผ่รังสี / การแพร่กัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์
26. การระเบิดของกัมมันตภาพรังสี

20

ทำไมต้องทำประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิตตลอดชีพ

ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้าย ประกันชดเชยรายวัน ประกันอุบัติเหตุ ที่เป็นสัญญาเพิ่มเติม ชื่อมันบอกอยู่มัน สัญญาเพิ่มเติม มันก็ต้องมีสัญญหาหลัก คือ ประกันชีวิต นั้นเอง

มีหลายคนไม่รู้ว่า ทำประกันสุขภาพต้องพ่วงชีวิตด้วยหรือ และต้องการทำประกันสุขภาพอย่างเดียว ต้องทำกับเป็นบริษัทประกันภัยเท่านั้น ไม่สามารถทำกับบริษัทประกันชีวิตได้ เพราะเราต้องทำคู่กับประกันชีวิตเสมอ ซึ่งมันก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ทั้งเรื่องเบี้ยประกัน ทั้งเรื่องการต่ออายุสัญญา

หากต้องการทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันชีวิต ก็ต้องพิจารณาว่า จะทำประกันชีวิตแบบไหนดี มีทั้งออมทรัพย์ ตลอดชีพ บำนาญ ชั่วระยะเวลา ( รายละเอียดแบบประกัน >> คลิก << )

ประกันชีวิตมีหลายแบบ แต่แบบที่เหมาะกับทำพ่วงประกันสุขภาพ คือ ตลอดชีพ และบำนาญ 

ด้วยเหตุผลหลักๆดังนี้

 ประกันชีวิตตลอดชีพ เบี้ยจะถูกกว่า เริ่มต้นพันกว่าบาท ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ เบี้ยมักเริ่มต้นหลักหมื่น (ขึ้นกับอายุด้วย)
>> ดังนั้น เราอยากทำประกันสุขภาพ ก็เน้นเบี้ยสุขภาพไป ระยะยาวเบี้ยสุขภาพก็แพงขึ้นด้วย ถ้ายาวไป จ่ายไม่ไหว ทิ้งก็เสียดาย 

สัญญาเพิ่มเติมจะมีระยะเวลาของสัญญา ต่ออายุได้จนอายุเท่าไหร่ แล้วแต่แบบประกัน เช่น ต่ออายุได้ถึง 65 85 99 ปี แต่ก็ขึ้นกับระยะเวลาสัญญาหลักด้วย ถ้าสัญญาหลักครบสัญญา ปิดเล่มแล้ว สัญญาเพิ่มเติมก็ต้องจบไปด้วย
>> ดังนั้น ถ้าโชคดีระหว่างสัญญาไม่มีโรคประจำตัว ผ่าตัดอะไร ก็ทำประกันเล่มใหม่ได้ ( แต่เบี้ยประกันชีวิตแพงขึ้น เพราะอายุเยอะขึ้น )
แต่ถ้าโชคร้าย เจอโรคร้าย มีปัญหาสุขภาพ การทำสัญญาใหม่ บริษัทก็จะไม่สามารถคุ้มครองโรคและอาการที่เป็นมาก่อนทำประกันได้ แม้จะทำประกันเล่มใหม่ กับบริษัทเดิมก็ตาม

 ประกันมีไว้คุ้มครองความเสี่ยงในอนาคต
>> ดังนั้นต้องถามตัวเองว่า เราวางแผนสุขภาพกี่ปีกัน ถ้าวางแผนสั้นๆ ก็ทำประกันสุขภาพ+ประกันชีวิตออมทรัพย์ก็ได้ แต่ถ้าวางแผนระยะยาว หรือไม่รู้ว่าจะถึงกี่ปี การทำประกันชีวิตตลอชีพ อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองต่ออายุสัญญาได้ตลอด อยากเลิกยกเลิกก็ยังทำได้ แต่ถ้าเลือกประกันชีวิตออมทรัพย์เราจะไม่มีโอกาสเลือกจะต่อสัญญาหรือไม่เพราะ อายุสัญญามันสั้นอยู่แล้ว

แนะนำให้ทำประกันอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ทำเพราะตัวแทนมาตื้อขาย หรือฟังเขามา

21

ประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิต VS ประกันสุขภาพเดี่ยว

คำถามที่พบบ่อย : ทำประกันสุขภาพ ต้องพ่วงประกันชีวิตด้วยหรือ?
ตอบ ใช่ ถ้าซื้อประกันสุขภาพ กับบริษัทประกันชีวิต แต่ถ้าซื้อกับบริษัทประกันภัยก็ซื้อเดี่ยวๆได้ คล้ายกับทำประกันรถ ประกันบ้าน ซึ่งมันมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน 

ประกันสุขภาพแบบพ่วงประกันชีวีต

 ข้อดี : กรมธรรม์มีสัญญาหลักที่เป็นประกันชีวิตซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว ( ระยะเวลาขึ้นกับแบบประกัน ) โอกาสบริษัทจะไม่ต้องอายุสัญญา จะขอเพิ่มเบี้ย จะยกเลิกสัญญามีน้อยมาก ถ้าไม่ได้ปกปิดข้อมูล แจ้งข้อมูลไม่ครบ หรือเคลมเกินความจำเป็นมากจริงๆ ไม่ได้มีแต่ประกันสุขภาพที่เป็นสัญญาปีต่อปี 

 ข้อเสีย : เบี้ยมันแพงกว่า แต่เบี้ยที่เพิ่มมาก็เป็นความคุ้มครองชีวิตให้ตัวเราเอง ถ้าเราเสียชีวิต ก็มีเงินเป็นสินไหมให้ ไม่ดีหรือ ใช้หนี้ หรือจัดการใช้จ่ายต่างๆหลังความตาย ไม่เดือดร้อนคนข้างหลัง
    ประกันชีวิต ไม่จำเป็นต้องทำทุนประกันสูงๆ สามารถเลือกทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ทุนเริ่มต้นก็ได้ แบบที่แนะนำ คือ เมืองไทยประกันชีวิต สมาร์ทโพรเทคชั่น 99/20 ทุนเริ่นต้น 200,000 เบี้ยพันพันต่อปีเท่านั้น คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี ซึ่งเลือกสัญญาประกันชีวิตที่ยาวเท่าไหร่ก็ทำให้เราอายุสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพได้ยาวสุดเท่าที่สัญญากำหนดได้

ประกันสุขภาพเดี่ยว (แบบไม่พ่วงประกันชีวิต)

 ข้อดี : เบี้ยประกันถูก เพราะไม่มีสัญญาหลักประกันชีวิต จ่ายเฉพาะเบี้ยประกันสุขภาพอย่างเดียว หรือเป็นแบบที่ความคุ้มครองใกล้เคียงกันแบบประกันสุขภาพที่ไม่พ่วงประกันชีวิตก็ถูกกว่าด้วย 

 ข้อเสีย : สัญญาเป็นปีต่อปี ก็ไม่มีสัญญาหลักยึดอะไร เคลมเยอะบริษัทมีสิทธิขอเพิ่มเบี้ย หรือไม่ต่ออายุให้ในปีกรมธรรม์ถัดไปได้ และการเปลี่ยนบริษัทไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ เปลี่ยนประกันรถยนต์ เพราะ ประวัติสุขภาพจะติดตัวเราไปตลอด และทุกบริษัทก็ไม่คุ้มครองโรคและอาการที่เป็นมาก่อนทำประกัน จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองระยะสั้นๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับวางแผนระยะยาว